Smart Machines

Smart Machines คืออะไร ? 

  Smart Machine คือเครื่องจักรกลที่อาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดความเป็นอัจฉริยะ เช่น รถยนต์รุ่นใหม่ที่จอดเองได้ ในอีกปีสองปีข้างหน้ารถยนต์จะสามารถทำตามคำสั่งผ่านเครื่องโทรศัพท์พกพา สามารถสั่งให้รถขับมารับจากที่จอด หรือเตือนคนขับล่วงหน้าก่อนที่จะขับชนสิ่งกีดขวาง ตัวอย่างของ Smart Machine สมัยใหม่ที่น่าทึ่งมาก คือ ระบบคอมพิวเตอร์ของไอบีเอ็มชื่อ Watson คอมพิวเตอร์ชุดนี้เข้าใจและตอบคำถามด้วยภาษามนุษย์ได้ และเคยผ่านการทดสอบที่ฮือฮามากในโปรแกรมโทรทัศน์ยอดนิยมของชาวอเมริกัน คือ Jeopardy!  ในการทดสอบครั้งนั้น Watson สามารถเอาชนะคู่แข่งที่เป็นมนุษย์ได้อย่างขาดลอย นอกจากนี้ไอบีเอ็มให้ข่าวว่างานในเชิงพาณิชย์ชิ้นแรกของ Watson คือการวินิจฉัยโรคมะเร็งในปอด เพื่อแนะนำวิธีรักษาที่เหมาะสมที่สุดSmart Machine นอกจากจะทำงานแบบอัตโนมัติได้ ยังคิดเองได้ และเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ เพราะเป็นเครื่องจักรที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ งานใดๆ ที่มนุษย์ทำได้โดยอาศัยความรู้เพื่อวินิจฉัยและตัดสินใจ ก็จะสามารถทำได้ด้วย Smart Machine เช่นกัน  กลุ่ม Smart Machine ที่ถูกนำมาช่วยทำงานในสำนักงาน หรือในโรงงานเรียกว่า “Digital Workforce” หรือ “แรงงานดิจิตอล”  ในขั้นแรกเครื่องจักรชนิดนี้จะสามารถทำงานอาศัยความรู้พื้นฐานแทนมนุษย์ ในขณะเดียวกันก็สามารถเรียนรู้ด้วยตัวเอง เกิดการพัฒนาความรู้และทักษะที่ช่วยให้ทำงานสลับซับซ้อนเพิ่มขึ้นได้ สิ่งจูงใจที่ทำให้ธุรกิจหันมาสนใจใช้ Smart Machine ทดแทนมนุษย์เป็นเพราะค่าแรงคนระดับที่มีความรู้นั้นสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักวิเคราะห์กล่าวว่าโดยเฉลี่ยค่าจ้างแรงงานสูงถึงประมาณร้อยละ 40 ของรายได้ในบางธุรกิจ ในสภาวะที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรงและจำเป็นต้องตัดลดค่าใช้จ่าย การใช้ Smart Machine ดูเสมือนจะเป็นทางออกที่ดี (Gartner,2014)

Smart Machines มีไว้เพื่ออะไร ?  

     

          - Smart Tv คือ ทีวีที่มีความสามารถเหนือทีวี อื่นๆ ด้วยเทคโนโลยีที่เหนือล้ำกว่า สามารถทำให้ทีวีรับคำสั่งเสียง รับคำสั่งตามการเคลื่อนไหว มีฟังก์ชั่นที่ใช้งานได้หลากหลาย ในปัจจุบัน Smart TV กล่าวได้ว่าเป็นทีวีที่ "ฉลาด" มากขึ้นนั่นเอง สามารถเชื่อมต่อเข้าใช้งานในโลกออนไลน์ Internet อย่างการใช้ Web Browser, Social Network และอื่นๆ ตามฟังก์ชั่นของ Smart TV / Internet TV แต่ละรุ่นในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีของ TV นั้นพัฒนาไปไกลมาก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ LCD TV, LED TV, PLASMA TV และในปัจจุบันนี้ทีวีจะไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือที่เอาไว้รับชมรายการโทรทัศน์หรือดูหนังเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ยังก้าวเข้าสู่โลกของการเชื่อมต่อ Internet การใช้แอพพลิเคชั่นที่หลากหลายช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันความสามารถของตัวเครื่องสูงมากขึ้น สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นได้หลากหลาย โดยส่วนใหญ่แล้วความสามารถทั้งหมดจะใช้งานได้ด้วยการท่องไปในโลกออนไลน์ แต่ก็ไม่ได้จ ากัดแค่การเชื่อมต่อ Internet เพียงอย่างเดียว ยังรวมไปถึงการใช้งานอื่นๆเช่นการเล่นเกมส์ (โดยไม่ต้องเชื่อมต่อ Internet) การลงแอพพลิเคชั่นต่างๆ มาใช้งาน

          - Smart Phone คือ โทรศัพท์ที่มีความสามารถมากกว่าโทรศัพท์ธรรมดา เพราะ Smart Phone เป็นโทรศัพท์ที่รองรับระบบปฏิบัติการต่างๆ หรือ Software ที่จะทำให้โทรศัพท์เพิ่มสมรรถนะ มากกว่าโทรศัพท์ทั่วไป และเหนือสิ่งอื่นใด Smart Phone คือคอมพิวเตอร์ขนาดย่อให้สามารถพกพาได้สะดวก Smart Phone จึงมีความสามารถที่คล้ายคลึงกับคอมพิวเตอร์ทุกอย่าง แต่เพิ่มฟังก์ชั่นด้านการสื่อสารโดยการโทรออกเข้าไป ทำให้Smart Phone จึงเป็นที่นิยมในเวลาไม่นานนัก และด้วยความสามารถนี้เองทำให้ Smart Phone เป็น Smart Machine ที่มียอดขายมากที่สุด 

Smart Machines ใช้งานอย่างไร ? 

    Smart Machine จะเข้ามารับบทบาทแทนมนุษย์ในงานมากขึ้น เช่น เป็นผู้ช่วยจัดการด้านข้อมูล ช่วยให้คนสามารถรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบด้านทั้งปัจจุบันและอนาคตได้แม่นยำขึ้น ตลอดจนเป็นผู้ช่วยในด้านปฏิบัติงานบางอย่างที่จะอำนวยความสะดวกและประหยัดเวลา เช่น รถยนต์ที่ขับเองได้โดยอัตโนมัติ เครื่องจักรช่วยทำงานบ้านได้ และเป็นผู้ช่วยส่วนตัวเพื่อทำงานประจำอื่น ๆ  สามารถทำตามคำสั่งผ่านเครื่องโทรศัพท์พกพา สามารถสั่งให้รถขับมารับจากที่จอด หรือเตือนคนขับล่วงหน้าก่อนที่จะขับชนสิ่งกีดขวาง สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยคิดว่าเป็นงานที่ทำได้ด้วยมนุษย์เท่านั้น บัดนี้เริ่มจะทำได้ด้วยเครื่องจักร  Gartner กล่าวว่าความสามารถของไอทีที่ทำให้เกิดSmart Machine ถือได้ว่าเป็นพัฒนาการทางเทคโนโลยีที่รุนแรงครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์

Smart Machines ส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง ?

     การพยากรณ์แนวโน้มเทคโนโลยีในปี 2014 ของ Gartner ที่น่าสนใจ หลายๆ หัวข้อเป็นเรื่องที่ได้คาดหมายไว้แล้วว่าจะ เกิดขึ้น ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้เกิดความมั่นใจในระดับหนึ่งว่าเทคโนโลยี ดังกล่าวมีแนวโน้นที่จะเกิดขึ้น ซึ่งการพยากรณ์ของ Gartner นั้นไม่ สำคัญเท่าการที่องค์การสามารถรับรู้การมาถึง การนำไปใช้อย่างเป็น รูปธรรม การสร้างโอกาสในการแข่งขัน มีกรอบในการพัฒนา และ เตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อ การสร้างก้าวต่อไปที่มั่นคงขององค์การ นอกจากนี้ไม่ควรที่จะลืมคำนึง ถึงคมอีกด้านของเทคโนโลยี และความเสี่ยงของภัยคุกคามจากผู้ไม่ ประสงค์ดี ที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีได้อย่างเท่าเทียมแต่มองในมุม ของช่องโหว่ของกระบวนการ และเทคนิคที่มีความซับซ้อน เพื่อเข้าถึง และกระทำการที่ไม่เหมาะสมกับข้อมูล และทรัพย์สินขององค์กรด้วย โดยเฉพาะผลที่มาจาก Internet of Everything ที่เป็นตัวแปรสำคัญ ของการพัฒนาเทคโนโลยีส่วนบุคคล ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล หรือแม้ กระทั่งขององค์การจะมีการเชื่อมต่อ และส่งผ่านอยู่ตลอดเวลาแม้จะ ได้รับความสะดวกแต่ก็ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่สูงตามไปด้วย จึงควร ต้องมีการบริหารจัดการที่รัดกุม และนโยบาย แนวทางปฏิบัติในการ ใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม บุคลากร และองค์การจึงจะได้รับความ ปลอดภัยในยุคของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างในปัจจุบันนี้